เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้🍪
เราใช้ Cookies เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด สรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและ Cookies อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ปัจจุบันการตรวจสุขภาพร่างกายก่อนการเริ่มทำงานถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่พนักงานทุกคนควรใส่ใจ และให้ความสำคัญไม่แพ้ประสบการณ์ความรู้และความสามารถของผู้สมัครเข้าทำงาน เพราะนอกจากจะเป็นขั้นตอนในการตรวจหาโรคติดต่อหรือปัญหาสุขภาพที่ส่งผลเสียให้กับร่างกาย และอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานแล้ว ก็ยังนับเป็นอีกหนึ่งการเตรียมความพร้อม ก่อนลุยงานใหม่ให้มีประสิทธิภาพและราบรื่นมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้กับองค์กรใหม่ในระยะยาวอีกด้วยเช่นกัน
การตรวจร่างกายก่อนเริ่มงาน มีความสำคัญอย่างไร เราจะพาไปดูทั้งในแง่ของพนักงานและองค์กร ตามที่จะกล่าวต่อไปนี้
สำหรับพนักงาน การได้ตรวจร่างกายก่อนเริ่มงาน มีความสำคัญดังนี้
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการตรวจเพื่อป้องกัน ค้นหาความผิดปกติเพื่อดูแนวโน้มเกิดโรคต่าง ๆ โดยแพทย์จะสอบถามประวัติของผู้เข้ารับการตรวจเพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เราเข้าใจสุขภาวะและความสมบูรณ์ของร่างกาย
การตรวจสุขภาพช่วยให้เราติดตามโรคประจำตัวและประเมินสุขภาพของผู้รับการตรวจ แพทย์จึงสามารถวางแผนการรักษาได้ โดยผู้เข้ารับการตรวจสามารถตอบข้อสงสัยด้านสุขภาพได้ ทำให้เราสามารถปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม
การตรวจสุขภาพประจำปีนับเป็นการวางแผนดูแลสุขภาพในระยะยาว ซึ่งทำให้เราทราบถึงแนวทางการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคในอนาคต
สำหรับองค์กรเอง การเช็กสุขภาพของพนักงานก็มีความสำคัญเช่นกัน กล่าวคือ
องค์กรสามารถคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสมกับองค์กร โดยยังสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรได้ว่าพนักงานมีสุขภาพที่พร้อมก่อนเข้าทำงาน เพราะหากพนักงานมีปัญหาสุขภาพ ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานได้
ในมิติของการตรวจหาโรคติดต่อและคัดกรองบุคคลเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อบุคลากรคนอื่น ๆ ในที่ทำงาน ทั้งยังเป็นการจำกัดการแพร่ระบาด หรือป้องกันโรคบางโรคได้ เพื่อความปลอดภัยในการทำงานร่วมกันในองค์กร
การตรวจร่างกายก่อนเริ่มงานนั้นเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้พนักงานในองค์กรได้รับอันตราย อุบัติเหตุ หรือผลกระทบจากการทำงาน ซึ่งถือเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้เกิดความปลอดภัยและถูกสุขอนามัย
ก่อนเริ่มงาน ต้องเช็กสุขภาพส่วนไหนบ้าง จริง ๆ แล้วการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานสำหรับเพศชายและเพศหญิงมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทว่าอาจมีความแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละบริษัท แต่โดยทั่วไปมักมีรายการดังต่อไปนี้
การตรวจร่างกายและสอบถามประวัติเป็นขั้นตอนแรกของการเช็กสุขภาพ หลังจากนั้นแพทย์ถามถึงประวัติอาการป่วยของครอบครัว ประวัติการใช้ยา และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ เพื่อคัดกรองข้อมูลนำไปใช้ในการประกอบคำวินิจฉัยและรายการตรวจร่างกายเบื้องต้น เช่น การตรวจวัดสัญญาณชีพ ดัชนีมวลกาย ความดันโลหิต
การเอกซเรย์ทรวงอกเป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยภาวะต่าง ๆ เกี่ยวกับทรวงอก ได้แก่ ปอด หัวใจ สภาพของหลอดเลือดแดงและดำในช่องอก รวมถึงกระดูกซี่โครง กระดูกสันหลัง และกระดูกไหปลาร้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่ จะมุ่งเน้นไปที่การตรวจคัดกรองวัณโรค ที่เป็นโรคติดต่อทางการหายใจ และสามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นผ่านทางละอองเสมหะขนาดเล็กได้
การตรวจความสมบูรณ์ของเลือดมีจุดประสงค์เพื่อหาความผิดปกติของส่วนประกอบของเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด รวมไปถึงความเข้มข้นของเลือด ทำให้สามารถประเมินสภาวะต่าง ๆ อาทิ ภาวะโลหิตจาง หรือภาวะที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นต้น
การตรวจปัสสาวะเป็นการตรวจเพื่อหาสารเสพติด รวมถึงสารเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) และแอมเฟตามีน (Amphetamine) ซึ่งถือเป็นโรคยาเสพติดให้โทษ อาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน นอกจากนี้ยังเป็นการตรวจคัดกรองโรคอื่น ๆ จากปัสสาวะ อย่างเช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โรคไต และโรคเบาหวาน เป็นต้น
การตรวจหาเชื้อไวรัสและโรคติดต่อ โดยเฉพาะโรคไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) ซึ่งถือเป็นโรคติดต่อที่สามารถติดต่อผ่านการรับเลือด หรือการใช้ของส่วนตัว เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ แปรงสีฟันร่วมกัน บางรายที่มีเชื้อปริมาณมากอาจสามารถแพร่เชื้อผ่านทางน้ำลายได้
การตรวจวัดทางสายตาเพื่อประเมินการทำงานของดวงตาทั้ง 2 ข้าง และค้นหาปัญหาทางสายตาเบื้องต้น รวมถึงดูการตอบสนองของดวงตา ค่าสายตา ตรวจตาบอดสี และสีของตาขาวและตาดำ
การตรวจการตั้งครรภ์เป็นการตรวจสำหรับผู้หญิงเพิ่มเติม เนื่องจากบางรายอาจไม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ การตรวจจะทำให้ทราบถึงภาวะตั้งครรภ์และหาแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อการทำงานที่ปลอดภัยต่อไป
โรงพยาบาลรามคำแหงพร้อมให้บริการตรวจสุขภาพด้วยโปรแกรมที่ครอบคลุมหลากความต้องการ เพื่อให้เราสามารถดูแลสุขภาพคนรุ่นใหม่ได้อย่างเหมาะสม