วัคซีนเสริมสำหรับเด็ก เพิ่มเกราะคุ้มกันลูกให้ครอบคลุมในหลากโรค

April 03 / 2025

วัคซีนเสริมเด็ก

 

 

 

     นอกจากวัคซีนพื้นฐานแล้ว วัคซีนเสริมยังช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย ผู้ปกครองควรศึกษาและวางแผนให้เหมาะสม เพื่อให้ลูกเติบโตแข็งแรงในทุกช่วงวัย

 

 

8 วัคซีนเสริมสำหรับเด็ก

1. วัคซีนนิวโมคอคคัส (PCV)

     วัคซีนนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (pneumococcal conjugate vaccine: PCV) หรือที่เราอาจคุ้นในชื่อ 'วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ' หรือ 'วัคซีนไอพีดี' เป็นวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อแบบรุกราน เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ภาวะปอดอักเสบ การติดเชื้อในกระแสเลือด ปัจจุบันมีวัคซีนหลายชนิด ทั้งแบบ 10, 13, 15 และ 20 สายพันธุ์ โดยสามารถเริ่มให้วัคซีนได้ในเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป

 

 

วัคซีนเสริมเด็ก

 

 

 

2. วัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก

     โรคมือเท้าปากพบได้บ่อยในเด็กเล็กโดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ปี  โดยเกิดจากเชื้อ Enterovirus (EV71) และมีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น เช่น สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ วัคซีนมือเท้าปากสามารถช่วยป้องกันโรคและลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของโรคมือเท้าปากที่เกิดจากเชื้อ Enterovirus (EV71)  สามารถเริ่มให้วัคซีนได้ในเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปจนถึงก่อนอายุ 6 ปี

 

3.  วัคซีนป้องกันโรคสุกใส

     โรคสุกใสพบบ่อยในเด็กและสามารถติดต่อได้ผ่านทางอากาศหายใจ ละอองฝอยของน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ หรือสัมผัสกับตุ่มน้ำใสของผู้ป่วยโดยตรง เด็กอาจมีไข้ ปวดเมื่อย มีผื่นเป็นตุ่มน้ำใสตามตัว วัคซีนป้องกันโรคสุกใสเป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อไวรัสที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง โดยแพทย์สามารถให้ในเด็กตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยครอบคลุมการใช้ได้ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่

 

 

 

วัคซีนเสริมเด็ก

 

 

 

4. วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก

     โรคไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน อาการมีตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงขั้นรุนแรง ปัจจุบันมีที่ช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล และลดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย โดยมีวัคซีนชนิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 

 

  • แบบฉีด 2 เข็มในผู้ที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป ฉีดได้ในผู้ที่เคยหรือไม่เคยมีประวัติเป็นไข้เลือดออก
  • แบบฉีด 3 เข็มในผู้ที่มีอายุ 6-45 ปี แนะนำในผู้ที่มีประวัติเคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน

 

 

5. วัคซีนตับอักเสบเอ

     โรคตับอักเสบเอเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหาร น้ำ หรือการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอมีทั้งแบบชนิดเชื้อไม่มีชีวิต ซึ่งสามารถเข้ารับได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป และแบบชนิดเชื้อมีชีวิต ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 18 เดือนขึ้นไป

 

6. วัคซีนไข้หวัดใหญ่

     โรคไข้หวัดใหญ่มักระบาดในช่วงน้ำฝนและหน้าหนาว เนื่องจากมีการเปลี่ยนสายพันธุ์ไวรัสที่ระบาดในทุกปี และภูมิคุ้มกันจากวัคซีนอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แพทย์จึงแนะนำให้รับวัคซีนทุกปี โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ในปีแรกที่ฉีดวัคซีน จำเป็นต้องได้รับวัคซีน 2 ครั้งห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน หลังจากนั้นสามารถรับวัคซีนปีละ 1 ครั้งได้ตามปกติ โดยสามารถใช้ทดแทน

 

อ่านเพิ่มเติม เตรียมรับมือการระบาดด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ปี 2025

 

 

วัคซีนเสริมเด็ก

 

 

 

7. วัคซีนพิษสุนัขบ้าก่อนการสัมผัสโรค

     แพทย์จะพิจารณาให้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าก่อนการสัมผัสในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นกัดในทุกอายุ โดยการให้วัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ หรือในชั้นผิวหนัง 2 ครั้ง การให้วัคซีนก่อนการสัมผัสโรคมีข้อดีคือ หากถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ กัดภายหลังการได้รับวัคซีนครบ ร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันอย่างรวดเร็ว และไม่มีความจำเป็นต้องได้รับอิมมูโนโกลบุลิน (RIG) แต่ยังคงจำเป็นต้องได้รับวัคซีนกระตุ้น 1-2 ครั้งหลังโดนกัด

 

8. วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น

โรคกาฬหลังแอ่นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อเป็นโรคอาจเกิดภาวะช็อกรุนแรงถึงอันตรายถึงชีวิต ปัจจุบันมีวัคซีน 2 ชนิด ได้แก่

 

  • วัคซีนที่ป้องกันไข้กาฬหลังแอ่นซีโรกรุ๊ป B สามารถให้ในเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป
  • วัคซีนที่ป้องกันไข้กาฬหลังแอ่นซีโรกรุ๊ป A, C, W, Y สามารถให้ได้ในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป

 

 

 

สล็อต