โคลิก (Colic) เด็กร้องไม่หยุด รับมืออย่างไรดี ?

May 07 / 2025

ภาวะโคลิก

 

 

 

 

     เคยได้ยินไหม? ความเชื่อที่ว่า “เด็กเล็กร้องไห้ไม่หยุดในเวลาเดิมทุกวัน อาจเป็นเพราะมองเห็นในสิ่งที่ผู้ใหญ่มองไม่เห็น” แต่ในทางการแพทย์ อาการร้องไห้ดังกล่าวสามารถอธิบายได้ด้วยภาวะที่เรียกว่า “โคลิก (Colic)” ซึ่งพบได้บ่อยในทารก และมีสาเหตุที่สามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์

 

ภาวะโคลิก

      โคลิก (Colic) หรือโรคปวดท้องอ้อนสามเดือน คือภาวะที่ทารกร้องไห้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน ผู้ปกครองจึงปลอบให้หยุดร้องได้ยาก มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดิมของแต่ละวัน และอาจกินเวลานานหลายชั่วโมง ส่วนใหญ่พบในช่วงบ่ายถึงค่ำ หรือบางรายอาจร้องยาวถึงกลางดึก แม้ว่ายังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น นอกจากนี้อาการโคลิกมักเกิดขึ้นกับทารกแรกเกิด ซึ่งพบบ่อยมากที่สุดในช่วงอายุ 2-3 สัปดาห์ ก่อนอาการจะเริ่มดีขึ้นเมื่อทารกอายุประมาณ 3 เดือน

 

อาการเบื้องต้นของภาวะโคลิก

  • อาการมักรุนแรงเกิดขึ้นทันทีทันใด และเกิดซ้ำ ๆ ในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน
  • ร้องไห้กวนมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน
  • มีอาการมากกว่า 3 วัน ต่อสัปดาห์ และมีระยะอาการมากกว่า 3 สัปดาห์
  • เสียงร้องเป็นลักษณะแผดเสียง เสียงสูง และเสียงดังกว่าปกติ
  • ร่างกายเกร็งตึงขึ้น เช่น กำมือแน่น แขนตึง ขาเกร็ง
  • ไม่สามารถปลอบให้สงบได้
  • เมื่อไม่มีอาการปวดท้องทารกจะดูปกติทุกอย่างและน้ำหนักเพิ่มตามปกติ

 

 

 

ภาวะโคลิก

 

 

 

สาเหตุของภาวะโคลิก

แม้ว่าสาเหตุของปวดท้องในเกิดภาวะโคลิกจะยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่มีปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้

 

  • ปวด/แน่น อึดอัด ไม่สบายท้อง / ลมอยู่ในช่องท้องมากเกินไป
  • แพ้โปรตีนนมวัว
  • ลมเข้าเยอะเวลาดูดนม
  • ให้นมมากเกินไป
  • เรอน้อยหรือไม่ได้ผายลม
  • รับประทานอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป
  • ระบบย่อยอาหารยังทำงานไม่สมบูรณ์
  • แบคทีเรียจุลินทรีย์ดีในลำไส้ไม่สมดุล

 

อาการแบบนี้ควรรีบพบกุมารแพทย์โดยด่วน

นอกจากอาการร้องไห้หนักแล้ว หากพบว่ามีอาการอื่นเพิ่มเติม ควรรีบพาไปพบแพทย์ด่วน

 

  • มีไข้ ตัวร้อน
  • หายใจผิดปกติ
  • อาเจียน
  • อุจจาระผิดปกติ
  • ดูซึมลง ไม่ดูดนม หรือมีอาการแย่ลง ควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา

 

 

 

 

ภาวะโคลิค

 

 

 

วิธีการรับมือเมื่อลูกไม่หยุดร้อง

1. สร้างบรรยากาศที่ช่วยให้ลูกสงบ

     อุ้มลูกในท่าที่สบาย เช่น อุ้มพาดบ่าหรืออุ้มแนบอกให้รู้สึกอบอุ่น หรืออาจวางทารกให้นอนคว่ำขวางบนตักคุณแม่

 

2. ไล่ลมในท้อง

     เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง ให้อุ้มพาดบ่าหรือใช้ท่านั่งเอียงเล็กน้อย นวดท้องเบา ๆ และอาจป้องกันการกลืนลมเข้าท้อง โดยการอุ้มทารกและช่วยถือขวดนมให้ถูกต้องไม่ให้มีลมบริเวณจุกที่กำลังดูด, อย่าปล่อยให้ทารกร้องนาน และอย่าป้อนนมมากเกินไป

 

3. เคลื่อนไหวเบา ๆ เพื่อช่วยให้ลูกสงบ

     หากเด็กยังคงร้องไห้ไม่หยุด ให้ลองอุ้มลูกพาดบ่าแล้วโยกตัวเบา ๆ ไกวเปลหรือลูบหลังเบา ๆ ขณะอยู่ในเตียง หรือแม้แต่พาลูกนั่งเล่นในรถเข็น ซึ่งอาจช่วยให้ลูกผ่อนคลาย

 

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเด็กร้องไห้หนัก

     สิ่งที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่ควรทำเมื่อลูกร้องไห้หนัก คือ “การเขย่าตัว” เพราะการเขย่าตัวไม่ได้ทำให้ลูกหยุดร้อง โดยเฉพาะในทารกอายุไม่เกิน 3-4 เดือน เนื่องจากศีรษะของทารกเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และมีสัดส่วนน้ำมากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณคอยังไม่แข็งแรงมากพอ หากมีการเขย่ารุนแรง ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า-หลัง หรือซ้าย-ขวา สมองที่อยู่ภายใน ซึ่งมีลักษณะคล้ายก้อนเนื้อในของเหลว อาจเคลื่อนตัวและกระแทกกับกะโหลกศีรษะ ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อสมองได้

 

 

 


นอกจากนี้ เส้นเลือดที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงสมองของทารกยังบอบบาง หากได้รับแรงกระแทกรุนแรง อาจฉีกขาดได้ง่ายและนำไปสู่ภาวะเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งในกรณีที่รุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

 

 

สล็อต