รู้โรคเกาต์ แก้โรคทัน! พร้อมเลือกอาหารเพื่อใช้แก้ให้ถูกโรค

     โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งซึ่งก่ออาการปวดข้อรุนแรงได้ หากไม่รีบรักษาจะมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต วันนี้ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลรามคำแหงพารู้จักโรคเกาต์และวิธีเลือกอาหารที่ช่วยลดกรดยูริกในร่างกาย พร้อมเคล็ดลับในการปรับพฤติกรรมการกินเพื่อควบคุมโรคเกาต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โรคเกาต์คืออะไร

     โรคเกาต์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งซีึ่งเกิดจากการมีกรดยูริคในเลือดสูง โดยทั่วไปเป็นผลจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลให้เกิดการสะสมภายในข้อต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อให้เกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน

ระดับกรดยูริคในเลือดควรเป็นเท่าไหร่

• ผู้ชาย ควรมีกรดยูริคในเลือดน้อยกว่า 7 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
• ผู้หญิง ควรมีกรดยูริคในเลือดน้อยกว่า 6 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

เพราะเหตุที่ทำให้กรดยูริคจึงสูง

สาเหตุที่กรดยูริคสูงขึ้นนั้น อาจเป็นผลมาจาก

• ไตไม่สามารถขับกรดยูริคได้ตามปกติ โดยอาจเป็นปัจจัยทางพันธุกรรม ไตเสื่อมหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
• การรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เมื่อร่างกายเผาผลาญพิวรีนให้กลายสภาพเป็นกรดยูริคในเลือด ส่งผลให้ก่อโรคหรือภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย และทำให้เกิดการสลายตัวของเซลล์และอวัยวะที่ผิดปกติ

จะดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคเกาต์อย่างไร

• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลให้กรดยูริคในเลือดสูงขึ้น รวมทั้งลดการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย
• ควรลดน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 
• หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีพิวรีนสูง อันก่อให้เกิดระดับกรดยูริคในเลือดสูง
• ไม่ทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์มากเกินไป โดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ แนะนำให้เลือกรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อป้องกันการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน
• ควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารผัดที่ใส่น้ำมันมาก เนื้อสัตว์ติดมัน เนื่องจากอาหารที่มีไขมันสูงทำให้การขับกรดยูริคลดน้อยลง
• ไม่ควรรับประทานน้ำหวานหรืออาหารที่มีส่วนผสมของฟรุกโตสมากเกินไป เพราะส่งผลให้ระดับกรดยูริคในเลือดสูง
• ควรดื่มน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

อาหารพิวรีนน้อย

(0 – 15 มิลลิกรัม/อาหาร 100  กรัม) สามารถทานได้

• ข้าวแป้ง ข้าวขาว ขนมปัง สาคู ข้าวโพด แครกเกอร์ ก๋วยเตี๋ยว  มักกะโรนี พาสต้า
• ผัก ผักต่าง ๆ (ยกเว้นบางชนิดที่มีพิวรีนมากและส่วนของยอดผัก)
• ผลไม้ ผลไม้ต่าง ๆ 
• เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ไข่เป็ด เนยแข็ง
• ผลิตภัณฑ์จากนม นมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย
• อื่น ๆ น้ำมันที่ใช้ประกอบอาหาร เนย ถั่วเปลืองแข็ง น้ำส้มสายชู วุ้น เจลาติน พุดดิ้ง คัสตาร์ด เครื่องเทศชนิดต่าง ๆ

อาหารพิวรีนปานกลาง

(50 - 150 มิลลิกรัม / อาหาร 100 กรัม) ควรลดปริมาณลง

• ข้าวแป้ง ข้าวโอ๊ต ข้าวซ้อมมือ ข้าวที่ไม่ขัดจนขาว ถั่วเมล็ดแห้ง
• ผัก ชะอม หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม เห็ด ดอกกะหล่ำปลี ถั่วลันเตา
• เนื้อสัตว์ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อปลา กุ้ง ปู ปลาหมึก

*ในแต่ละมื้อ ไม่ควรรับประทานอาหารกลุ่มนี้พร้อมกันหลายชนิด

อาหารพิวรีนสูง

(มากกว่า 150 มิลลิกรัม / อาหาร 100 กรัม) ควรหลีกเลี่ยง

• ผัก ยอดกระถิน ยอดตำลึง ใบขี้เหล็ก ยอดฟักแม้ว ยอดฟักทอง
• เนื้อสัตว์ เครื่องในปลา ไข่ปลา ปลาไส้ตัน ปลากะตัก ปลาดุก ปลาอินทรีย์ ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล หอยเชลล์ หอยแมลงภู่
• อื่น ๆ น้ำสกัดจากเนื้อ น้ำต้มกระดูก น้ำเกรวี่ น้ำซุป ซุปก้อน น้ำปลา กะปิ ยีสต์

แก้ไข

06/11/2566