“ผื่นลมพิษ” ผื่นแดงนูน คัน บนผิวหนัง อันตรายกว่าที่คิด

“ผื่นลมพิษ” ผื่นแดงนูน คัน บนผิวหนัง อันตรายกว่าที่คิด

     ใครที่มีอาการคันตามผิวหนัง เป็นผื่นบวม แดง อาจจะกำลังโดนลมพิษเล่นงานอยู่ก็ได้นะครับ ซึ่งเราพบว่าร้อยละ 10-15 ของประชากร ต้องเคยเป็นผื่นลมพิษอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต

โรคผื่นลมพิษ

     ลมพิษ (Urticaria) คือกลุ่มอาการของปฏิกิริยาตอบสนองต่างๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้จะสร้างสารที่เรียกว่า “ฮิสตามีน” (Histamine) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัวและมีน้ำเลือดซึมออกมา ทำให้เกิดการบวมของชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง มองเห็นเป็นลักษณะผื่นบวมนูนแดงเป็นวงๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง และคันมาก หรือบางครั้งอาจมีอาการบวมของหนังตา ปาก แก้ม ใบหู หนังศีรษะร่วมด้วยครับ

ชนิดของโรคผื่นลมพิษ

     ลมพิษสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดเฉียบพลัน ซึ่งอาการต่างๆ จะเกิดขึ้นและหายไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมง หรือติดต่อกันไม่เกิน 6 สัปดาห์ ส่วนชนิดเรื้อรัง จะมีอาการเป็นๆ หายๆ ต่อเนื่องกันเกิน 6 สัปดาห์ขึ้นไป

สาเหตุของการเกิดโรคลมพิษ

     สาเหตุการเกิดลมพิษนั้นมีได้หลากหลายเลยครับ ซึ่งอาจเกิดจากแสงแดด ฝุ่น หรือสารพิษต่าง ๆ รวมไปถึงพฤติกรรมการทานยาแก้ปวด การทานอาหารบางชนิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด นอกจากนี้สาเหตุของลมพิษชนิดเฉียบพลันก็มักเกิดจากอาการแพ้ต่าง ๆ ของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายตัวเองหรืออาการแพ้ภูมิตัวเองก็มีได้ครับ

การดูแลตัวเองจากโรคผื่นลมพิษ

     นอกจากนี้เราควรหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงขึ้นได้อีกด้วยนะครับ

วิธีรักษาอาการลมพิษที่ดีที่สุดคือ การหาสาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษเพื่อจะได้หลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงในการเกิดลมพิษ ร่วมกับการทานยาแก้แพ้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ตรวจวินิจฉัยพิจารณาให้ยารักษาตามอาการของแต่ละคน

แก้ไข

12/12/2565