โรคซิฟิลิส (Syphilis) เรื่องลับไม่กล้าพูด แค่บอกหมอให้ช่วยแก้

 

 

     ‘โรคซิฟิลิส’ หากรู้ว่าเป็นแล้ว คนเรามักกลัวไม่กล้าบอก แค่บอกหมอให้ช่วยแก้ อาจดีกว่ากับชีวิต อาการเป็นอย่างไร เป็นแล้วหายได้ไหม ใช้เวลากี่วัน เคยเป็นแล้วกลับเป็นซ้ำได้หรือไหม วันนี้สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลพยาบาลรามคำแหงร่วมคลายข้อสงสัยแก่ผู้อ่านทุกท่านครับ

 

โรคซิฟิลิส

     โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรียรูปทรงเกรียวชื่อ Treponema pallidum ซึ่งติดต่อได้ผ่านการสัมผัสบาดแผลตามผิวหนัง การจูบหรือการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หากเป็นช่วงแรกมักไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อตรวจร่างกายมักไม่พบเชื้อและมักแฝงกายกลืนกับกระแสเลือด    

 

สาเหตุของโรคซิฟิลิส

     โรคซิฟิลิสติดต่อได้ผ่านกิจรรมทางเพศทั้งจากอวัยวะเพศ ปากและทวารหนัก โดยเฉพาะผู้ที่เพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน มีเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่ออื่นแต่เดิมมีโอกาสเสี่ยงสูงเป็นโรค บางรายยังอาจติดเชื้อทางเยื่อบุ บาดหรือการใช้ของมีคม เช่น การใช้เข็ม 

 

 

 

 

 

 

อาการของโรคซิฟิลิสแบ่งได้ 4 ระยะ

ซิฟิลิสระยะที่ 1

     จะเกิดอาการภายใน 3 สัปดาห์หลังติดเชื้อ ผู้ป่วยมีแผลที่อวัยวะเพศหรือที่ทวารหนัก ลักษณะเป็นแผล ขอบแข็ง ไม่เจ็บ เรียกว่า chancre อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต อาการสามารถหายได้เองใน 3-8 สัปดาห์ แต่เชื้อโรคยังคงอยู่และจะเข้าสู่ระยะที่ 2

 

ซิฟิลิสระยะที่ 2

     จะปรากฏอาการ 3-12 สัปดาห์หลังติดเชื้อ เนื่องจากเป็นระยะที่เชื้อซิฟิลิสแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองและกระแสเลือดผู้ป่วยจะมีผื่นตามตัว ฝ่ามือฝ่าเท้า ผื่นอาจหายได้เองใน 2-3 สัปดาห์ แต่เชื้อซิฟิลิสยังคงอยู่ในกระแสเลือดและพัฒนาเข้าสู่ระยะต่อไป

 

ซิฟิลิสระยะที่ 3 ระยะแฝง

     เชื้อซิฟิลิสจะซ่อนอยู่ในร่างกายและทำลายอวัยวะภายในไปเรื่อยๆ โดยไม่มีอาการ โดยเชื้อสามารถแฝงอยู่ในร่างกายได้ถึง 20 ปี ก่อนจะเข้าสู่ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย

 

ซิฟิลิสระยะที่ 4 ระยะสุดท้าย

     เมื่อเชื้อเข้าไปทำลายอวัยวะภายในจนถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะทำให้เกิดอาการตามระบบที่เชื้อเข้าไปทำลาย เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท ซิฟิลิสเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าทิ้งไว้แล้วไม่รักษาสามารถทำให้เกิดอาการในระบบต่างๆ และสามารถทำให้เกิดการพิการได้ จึงควรรักษาแต่เนิ่น ๆ

 

 

 

 

 

 

การวินิจฉัยโรค

แพทย์เริ่มตรวจร่างกายร่วมกับตรวจรูปแบบอื่น เช่น

 

• การตรวจเลือด ร่วมกับส่องกล้องตรวจสารคัดตามผิวหนังหรือต่อมน้ำเหลือง เพื่อหาเชื้อและทำนายการเกิดโรค
• การตรวจน้ำไขสันหลัง หรือ Cerebrospinal fluid: CSF ใช้ในกรณีแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยมีแนวเป็นซิฟิลิสระบบประสาท

 

ซิฟิลิสต่างจากโรคหนองในอย่างไร

     นอกเหนือจากอาการ ซิฟิลิสและหนองในยังแตกต่างแยกย่อยที่รูปแบบการติดเชื้อ ซิฟิลิสติดต่อผ่านการสัมผัสจนเกิดแผลริมแข็ง ขณะที่หนองในติดต่อผ่านสารคัดหลั่งอย่างพวกน้ำอสุจิขณะมีเพศสัมพันธ์

 

 

---

ซิฟิลิสสามารถรักษาได้ ยิ่งตรวจเจอเร็ว ยิ่งรักษาให้หายไวและไม่เป็นซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าได้รับเชื้อจากผู้อื่น

---

 

 

 

 

 

การป้องกันโรคซิฟิลิส

• หลีกเลี่ยงเลือดและสารคัดหลั่งจากผู้ที่ได้รับเชื้อ
• ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน
• สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ควรเลือกแบบยางสังเคราะห์เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันที่มากขึ้น

 

แผนกผิวหนังพร้อมใส่ใจปัญหาที่คุณประสบ

   ;  โรงพยาบาลรามคำแหงเรามีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังพร้อมให้การดูแลปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้ชายภายในห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ทุกข้อมูลและการรักษาจะถูกเก็บเป็นความลับ คุณสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้อย่างมั่นใจ

 

 

---

อย่าให้ความเขินอายมาปิดกั้นสุขภาพของคุณเพราะปัญหาผิวหนังที่ปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามจนการรักษายากขึ้น การพบแพทย์แต่เนิ่นๆ คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด